การเปลี่ยนแปลงหลังจากการอัปเดตซอฟต์แวร์เป็น Android 16

นอกจากการอัปเดตซอฟต์แวร์เป็น Android 16 แล้ว ยังมีการเปลี่ยนแปลงบางอย่างกับฟังก์ชันต่าง ๆ ที่มีอยู่ด้วย ต่อไปนี้คือส่วนหนึ่งของการเปลี่ยนแปลงสำคัญ ๆ หลังจากการอัปเดตอุปกรณ์ของคุณเป็น Android 16

คู่มือช่วยเหลือนี้ไม่ได้อธิบายคุณสมบัติและฟังก์ชันต่าง ๆ ทั้งหมดของ Android 16 คุณสมบัติ ฟังก์ชัน การตั้งค่า และองค์ประกอบของการออกแบบหน้าจอบางอย่างอาจแตกต่างไปจากเนื้อหาของคู่มือช่วยเหลือนี้หลังจากการอัปเดตอุปกรณ์ของคุณเป็น Android 16

การเปลี่ยนแปลงรายการต่าง ๆ ในเมนูการตั้งค่า

มีการเปลี่ยนแปลงชื่อและลำดับของบางรายการในเมนูการตั้งค่า สำหรับหัวข้อนี้จะอธิบายถึงรายการที่มีการเปลี่ยนแปลงขั้นตอนการใช้งานเป็นหลัก

ภาพแสดงรายการต่าง ๆ ในเมนูการตั้งค่า

โหมด

มีการเพิ่มรายการต่อไปนี้ลงในเมนูการตั้งค่า

[โหมด]

คุณสามารถตัดสินใจเลือกเวลาที่จะบล็อกการแจ้งเตือนเพื่อช่วยให้มีสมาธิในบางสถานการณ์ เช่น ขณะกำลังนอนหลับ ทำงาน หรือขับรถได้

ค้นหาแล้วแตะตามลำดับต่อไปนี้ จากนั้นแตะรายการที่ต้องการเพื่อเปลี่ยนค่า

[การตั้งค่า] > [โหมด]

ห้ามรบกวน: คุณสามารถลดการแจ้งเตือนโดยอนุญาตให้แสดงเฉพาะการแจ้งเตือนที่คุณต้องการเท่านั้น

เวลาเข้านอน: คุณสามารถตั้งปลุก ลดความสว่างหน้าจอ และบล็อกการแจ้งเตือนได้

ขับรถ: คุณสามารถบล็อกการแจ้งเตือนเพื่อให้มีสมาธิขณะขับรถได้

สร้างโหมดของคุณเอง: คุณสามารถปรับแต่งโหมดต่าง ๆ ได้ เลือกไอคอนและใส่ชื่อโหมด

จากนั้นแตะปุ่มต่อไปนี้และตั้งค่ารายการที่ต้องการ

[เสร็จสิ้น]

หมายเหตุ

  • มีการนำรายการต่อไปนี้ออก

    [การตั้งค่า] > [เสียงและการสั่น] > [ห้ามรบกวน]

  • มีการนำรายการต่อไปนี้ออกจากแผงการตั้งค่าด่วน

    (ห้ามรบกวน)

    (โหมดเวลาเข้านอน)

    แตะไอคอนต่อไปนี้ในแผงการตั้งค่าด่วนเพื่อเปลี่ยนการตั้งค่า

    (โหมด)

คำแนะนำ

  • คุณสามารถเปลี่ยนการตั้งค่าสำหรับไอคอนต่อไปนี้จากแผงการตั้งค่าด่วน

    (โหมด)

คุณสมบัติใหม่และการเปลี่ยนแปลงในการตั้งค่าคุณภาพภาพ

  • ตอนนี้คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุณภาพภาพที่แนะนำได้

    ค้นหาแล้วแตะตามลำดับต่อไปนี้

    [การตั้งค่า] > [การแสดงผล] > [การตั้งค่าคุณภาพภาพ] > [แนะนำ]

    การตั้งค่าคุณภาพภาพถูกปรับให้เหมาะกับการใช้งานอุปกรณ์นี้และเนื้อหาที่แสดง

  • มีการเปลี่ยนแปลงวิธีการตั้งค่าสมดุลแสงขาวบนหน้าจอ

    ค้นหาแล้วแตะตามลำดับต่อไปนี้ จากนั้นกำหนดการตั้งค่าที่ต้องการ

    [การตั้งค่า] > [การแสดงผล] > [การตั้งค่าคุณภาพภาพ] > [อุณหภูมิสี]

ภาพแสดงรายการต่าง ๆ ในการตั้งค่าคุณภาพภาพ

เปลี่ยนเป็น Side sense

มีการนำรายการต่อไปนี้ออก

[การตั้งค่า] > [การดำเนินการและมุมมอง] > [Side sense]

ตอนนี้คุณสามารถใช้ Side sense ได้โดยดําเนินการดังต่อไปนี้

การเปิดหรือปิด Side sense

  1. ค้นหาแล้วแตะตามลำดับต่อไปนี้

    [การตั้งค่า] > [ระบบ] > [ท่าทางสัมผัส] > [Side sense]

  2. แตะสวิตช์เพื่อเปิดหรือปิดใช้งานฟังก์ชัน

    [ใช้แถบ Side sense]

การดูคำแนะนำในการใช้งานมัลติทาสต์กิ้ง

นอกจาก Side sense คุณยังสามารถดูวิธีใช้โหมดแยกหน้าจอ (หลายหน้าต่าง) และโหมดหน้าต่างป็อปอัพได้ด้วย

ค้นหาแล้วแตะตามลำดับต่อไปนี้

[การตั้งค่า] > [ระบบ] > [ท่าทางสัมผัส] > [Side sense] > [ดูคำแนะนำการใช้งานมัลติทาสต์กิ้ง]

จากนั้นแตะรายการที่ต้องการในหน้าจอต่อไปนี้

[คำแนะนำมัลติทาสต์กิ้ง]

ภาพแสดงรายการต่าง ๆ ในคำแนะนำมัลติทาสต์กิ้ง

คำแนะนำ

  • หากต้องการเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับเมนูตัวเปิดใช้แอป ให้ค้นหาแล้วแตะตามลำดับต่อไปนี้

    [คำแนะนำมัลติทาสต์กิ้ง] > [Side sense]

การเปลี่ยนแปลงวิธีเลือกนาฬิกาที่จะแสดงบนหน้าจอขณะล็อก

มีการนำรายการต่อไปนี้ออก

[การตั้งค่า] > [การแสดงผล] > [ค่ากำหนดหน้าจอล็อก] > [นาฬิกา]

การเปลี่ยนนาฬิกาบนหน้าจอขณะล็อกสามารถทำได้โดยดำเนินการดังต่อไปนี้

  1. ดำเนินการอย่างใดอย่างหนึ่งต่อไปนี้เพื่อแสดงหน้าจอ

    [วอลเปเปอร์และสไตล์]

    • ค้นหาแล้วแตะตามลำดับต่อไปนี้

      [การตั้งค่า] > [วอลเปเปอร์และสไตล์]

    • แตะพื้นที่ว่างบนหน้าจอหลักค้างไว้แล้วแตะรายการต่อไปนี้

      [วอลเปเปอร์และสไตล์]

  2. แตะรายการต่อไปนี้

    [หน้าจอล็อก]

  3. ปัดภาพตัวอย่างไปทางซ้ายหรือขวา หรือแตะนาฬิกาที่แสดงทางซ้ายหรือขวาของภาพตัวอย่าง

การเปลี่ยนแปลงในการตั้งค่าหน้าจอขณะล็อก

  • ตอนนี้คุณสามารถเปิดหน้าจอขณะล็อกจากหน้าจอหลักได้

    แตะพื้นที่ว่างบนหน้าจอหลักค้างไว้แล้วแตะรายการต่อไปนี้

    [วอลเปเปอร์และสไตล์] > [หน้าจอล็อก] > [การตั้งค่าหน้าจอล็อกเพิ่มเติม]

  • รายการต่อไปนี้มีการเปลี่ยนแปลงดังนี้

    ก่อนอัปเดต: [แตะเพื่อแสดงหน้าจอขณะล็อก]

    หลังอัปเดต: [แตะสองครั้งเพื่อดูโทรศัพท์]

การสะท้อนหน้าจออุปกรณ์บนทีวีที่รองรับ

คุณสามารถใช้คุณสมบัติการสะท้อนหน้าจอเพื่อสะท้อนหน้าจออุปกรณ์ของคุณบนทีวีหรือจอแสดงผลขนาดใหญ่จออื่นโดยไม่ต้องใช้สายเชื่อมต่อ

เทคโนโลยี Wi-Fi Direct® จะสร้างการเชื่อมต่อไร้สายระหว่างอุปกรณ์สองเครื่อง ดังนั้นคุณจึงนั่งดูภาพโปรดของคุณได้อย่างสบายใจ คุณยังสามารถใช้คุณสมบัตินี้ในการฟังเพลงจากอุปกรณ์ของคุณโดยใช้ลำโพงของทีวี

ตอนนี้สามารถใช้งานคุณสมบัติการสะท้อนหน้าจอจากฟังก์ชันแคสต์ในแผงการตั้งค่าด่วนได้แล้ว

ตรวจสอบว่าอุปกรณ์เชื่อมต่อกับเครือข่าย Wi-Fi® แล้วก่อนที่จะใช้งาน

  1. ทีวี: ทำตามคำแนะนำในคู่มือผู้ใช้โทรทัศน์เพื่อเปิดฟังก์ชันการสะท้อนหน้าจอ

  2. อุปกรณ์ของคุณ: ปัดลง 2 ครั้งจากด้านบนของหน้าจอเพื่อเปิดแผงการตั้งค่าด่วน

  3. ปัดไปทางซ้ายหรือขวาเพื่อค้นหาฟังก์ชันต่อไปนี้ แล้วแตะที่ฟังก์ชันนั้น

    (แคสต์)

    จากนั้นแตะปุ่มต่อไปนี้

    [การตั้งค่า]

    ภาพแสดงตำแหน่งของฟังก์ชันแคสต์ในแผงการตั้งค่าด่วน

    คำแนะนำ

    • หากไม่พบไอคอนในแผงการตั้งค่าด่วน คุณสามารถเพิ่มไอคอนนั้นลงในแผงได้

      แตะไอคอนต่อไปนี้

      (แก้ไข)

      จากนั้นแตะไอคอนต่อไปนี้ค้างไว้เพื่อย้ายไอคอนนั้นไปที่ส่วนบนของหน้าจอ

      (แคสต์)

  4. แตะไอคอนต่อไปนี้ที่ด้านขวาบนของหน้าจอ

    (เพิ่มเติม)

    แล้วเลือกช่องทำเครื่องหมายต่อไปนี้

    [เปิดใช้การแสดงผลแบบไร้สาย]

  5. แตะอุปกรณ์ที่ต้องการเชื่อมต่อ

วิธีหยุดการสะท้อนหน้าจอระหว่างอุปกรณ์

ค้นหารายการในแผงการตั้งค่าด่วนแล้วแตะตามลำดับต่อไปนี้

(แคสต์) > [ยกเลิกการเชื่อมต่อ]

  • คุณจะไม่สามารถยกเลิกการสะท้อนหน้าจอได้อีกเมื่อดําเนินการดังต่อไปนี้

    ปัดลงมาจากด้านบนของหน้าจอแล้วแตะตามลำดับต่อไปนี้

    (ขยายเพิ่ม) > [ตัดการเชื่อมต่อ] > [ตกลง]

หมายเหตุ

  • มีการนำรายการต่อไปนี้ออก

    [การตั้งค่า] > [การเชื่อมต่ออุปกรณ์] > [ค่ากำหนดการเชื่อมต่อ] > [การสะท้อนหน้าจอ]

  • สามารถใช้งานฟังก์ชันนี้กับทีวีที่รองรับคุณสมบัติการสะท้อนหน้าจอ

  • เมื่อใช้การสะท้อนหน้าจอ อย่าบังบริเวณเสาอากาศ Wi-Fi ของอุปกรณ์

  • เมื่อใช้การสะท้อนหน้าจอ ในบางครั้งอาจส่งผลกระทบทำให้คุณภาพของภาพไม่ดีนักหากมีการรบกวนจากเครือข่าย Wi-Fi อื่น ๆ

คำแนะนำ

  • คุณสามารถใช้คุณสมบัติการสะท้อนหน้าจอจากฟังก์ชันแคสต์ในเมนูการตั้งค่าได้เช่นกัน

    ค้นหาแล้วแตะตามลำดับต่อไปนี้

    [การตั้งค่า] > [อุปกรณ์ที่เชื่อมต่อ] > [ค่ากำหนดการเชื่อมต่อ] > [แคสต์]

    แตะไอคอนต่อไปนี้ที่ด้านขวาบนของหน้าจอ

    (เพิ่มเติม)

    เลือกช่องทำเครื่องหมายต่อไปนี้

    [เปิดใช้การแสดงผลแบบไร้สาย]

    แล้วแตะอุปกรณ์ที่ต้องการเชื่อมต่อ

การเปลี่ยนแปลงในคุณภาพเสียงการเล่น

ตอนนี้คุณสามารถปรับแต่งการใช้งานและการตั้งค่าแบบละเอียดของเอฟเฟกต์ (Dolby Sound, 360 Upmix และ DSEE Ultimate) สำหรับรายการแต่ละรายการต่อไปนี้ได้

[แอปเพลง]/[วิดีโอ/แอปอื่นๆ]

  1. ค้นหาแล้วแตะตามลำดับต่อไปนี้

    [การตั้งค่า] > [เสียงและการสั่น] > [คุณภาพการเล่น]

  2. แตะสวิตช์ต่อไปนี้เพื่อเปิดใช้งานฟังก์ชัน

    [เอฟเฟ็กต์เสียง]

  3. แตะตามลำดับต่อไปนี้เพื่อเลือกการตั้งค่าที่ต้องการ

    [กำหนดเอง] > [แอปเพลง] หรือ [วิดีโอ/แอปอื่นๆ]

การตรวจสอบสถานะแบตเตอรี่

ตอนนี้คุณสามารถตรวจสอบสถานะแบตเตอรี่ได้โดยดำเนินการดังต่อไปนี้

ค้นหาแล้วแตะตามลำดับต่อไปนี้

[การตั้งค่า] > [ระบบ] > [การวินิจฉัยอุปกรณ์] > [ประสิทธิภาพของส่วนประกอบ] > [สถานะแบตเตอรี่]

การเปลี่ยนแปลงอื่น ๆ

การเปลี่ยนแปลงในการตั้งค่าโหมดมือเดียว

หากต้องการใช้โหมดมือเดียว ให้ค้นหาแล้วแตะตามลำดับต่อไปนี้

[การตั้งค่า] > [ระบบ] > [ท่าทางสัมผัส] > [โหมดมือเดียว]

จากนั้นแตะสวิตช์ต่อไปนี้

[ใช้โหมดมือเดียว]

หมายเหตุ

  • มีการนำรายการต่อไปนี้ออก

    [การตั้งค่า] > [การแสดงผล] > [โหมดมือเดียว]

การเปลี่ยนแปลงในการตั้งค่าการอัปเดตแอปโดยอัตโนมัติ

มีการนำรายการต่อไปนี้ออก

[การตั้งค่า] > [ระบบ] > [การอัปเดตระบบ] > (เพิ่มเติม) > [การตั้งค่า] > [อัปเดตแอปอัตโนมัติ]

หากต้องการเปลี่ยนการตั้งค่าการอัปเดตแอปโดยอัตโนมัติ ให้ดำเนินการดังต่อไปนี้

  1. ค้นหาแล้วแตะไอคอน

    (Google Play)

  2. แตะไอคอนบัญชี จากนั้นค้นหาแล้วแตะเมนูอัปเดตแอปอัตโนมัติในเมนูการตั้งค่า

  3. เลือกตัวเลือกที่ต้องการ

TP1002102937